วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

เรื่องน่ารู้ของสุนัขพันธุ์ ไซบีเรียน ฮัสกี้




ประวัติความเป็นมา

ไซบีเรียน ฮัสกี้ เริ่มเป็นที่รู้จักกันในอเมริกาเหนือเมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีมาแล้ว โดยนายวิลเลียม กูซัค พ่อค้าชาวรัสเซียที่เดินทางโดยใช้ไซบีเรียน ฮัสกี้ลากเลื่อนเข้ามาค้าขายขนสัตว์ทางเมืองนอม มลรัฐอลาสกา สหรัฐอเมริกา จากนั้นนายกูซัคได้นำทีมไซบีเรียน ฮัสกี้ เข้าร่วมการแข่งขันลากเลื่อนระยะทาง 408 ไมล์ โดยมีเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะถึง 10,000 ดอลล่าร์ และแน่นอนเมื่อมีการแข่งขันก็ต้องมีการพนันเกิดขึ้น แต่ในการแข่งขันครั้งนั้นไม่มีใครให้ความสนใจลงเดิมพันกับเจ้าฝูงสุนัขตัวเล็กๆ ของกูซัคเลย เพราะมันยังไร้นาม ไร้ประวัติ ไร้คนรู้จัก ดูแล้วไม่น่าจะชนะได้เมื่อเทียบกับสุนัขทีมอื่นๆ ที่เคยได้ครองแชมป์ของที่นั่นมาแล้ว และด้วยขนาดตัวของไซบีเรียน ฮัสกี้ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าสุนัขพื้นเมือง คนพื้นเมืองจึงเรียกสุนัขของกูซัคว่า "เจ้าหนูไซบีเรียน" (Siberian Rats) และสำหรับผลการแข่งขันในครั้งนั้น เจ้าหนูไซบีเรียน ก็ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง เพราะมันได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในหลายการแข่งขัน และภายใน 2 ปี ชื่อของ เจ้าหนูไซบีเรียน จึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อสายพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ ดังเช่นปัจจุบัน

ลักษณะทั่วไป

ไซบีเรียนฮัสกี้มีรูปร่างลักษณะภายนอกคล้ายกับอลาสกันมาลามิวเช่นเดียวกับสายพันธุ์อื่นๆที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากสุนัขวงศ์สปิตซ์เช่นซามอย ไซบีเรียนมีขนหนาแน่นกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นมีสีและรูปแบบขนที่หลากหลาย โดยปกติมีสีขาวที่เท้า, ขา,ท้อง, รอบตาหรือเป็นหน้ากากที่หน้าและที่ปลายหาง ทั่วไปมีสีดำ-ขาว, เทา-ขาว, ทองแดง-ขาว, และขาวปลอดและยังมีแบบที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะ เช่น สีอ่อน แต้มจุด แว่นตา ฯลฯ บางครั้งก็มีลักษณะคล้ายหมาป่าเกิดขึ้น แม้ว่าในการพัฒนาพันธุ์ไม่มีความใกล้ชิดกับหมาป่าหรือสายพันธุ์ที่ใกล้ชิดเลยคิดว่าเกิดจากการเพาะพันธุ์ที่ไซบีเรียแล้ว

ตา : สีตาของไซบีเรียนฮัสกี้ที่เป็นที่ยอมรับมีสีฟ้าหรือน้ำตาลเข้ม, เขียว, น้ำตาลอ่อน, เหลือง/อำพัน, “แก้วตาหลายสี” หรือตาเฮเซล(Hazel) เป็นจุดบกพร่องร้ายแรงที่แสดงวงสีต่างกันในแก้วตา รวมถึงตาข้างนึงสีน้ำตาลอีกข้างสีฟ้า (complete heterochromia) หรือตาข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้างมีสี”แบ่งส่วน” น้ำตาลครึ่งฟ้าครึ่ง (partial heterochromia) นี่คือสีตาทั้งหมดที่ถูกพิจารณายอมรับโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (สหรัฐอเมริกา) ตาต้องเป็นรูปอัลมอนด์เว้นระยะห่างกันปานกลาง วางตัวเฉียงเล็กน้อย

หูและหาง : หูเป็นรูปสามเหลี่ยม, มีขนสมบูรณ์, ขนาดกลาง, และ ตั้งชันความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยๆในการพัฒนาพันธุ์โดยสมาคมพัฒนาพันธุ์ สุนัขเช่นสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (สหรัฐอเมริกา) ที่มีรูปหูที่เรียกว่าหูผึ่ง(prick ears) มันหางเป็นพู่เหมือนหางหมาจิ้งจอกรูป เคียวโค้งเหนือหลังและลากหางไปด้านหลังเมื่อเคลื่อนไหว ไซบีเรียนฮัสกี้ส่วนมากมีสีขาวตรงปลายหาง หางต้องไม่โค้งจนแตะหลังเหมือนสปิตซ์สีออกแกมขาว

ขน : ขนของไซบีเรียนฮัสกี้มี 2 ชั้น ขนชั้นในที่หนาแน่นและขนชั้นนอกที่ยาวกว่าขนชั้นนอกยาวตรงและบางส่วนเหยียด เรียบไม่ชี้ชันตั้งตรงจากลำตัวที่สามารถปกป้องมันจากความรุนแรงของฤดูหนาว ขั้วโลกเหนือได้แต่ขนที่หนานั้นทำให้มันยากที่อยู่อย่างสบายได้ในฤดูร้อน ส่วนขนยาวแบบที่เรียกว่า “ฮัสกี้ขนแกะ(wooly huskies)” นั้นไม่เป็นที่ยอมรับและไม่มีสิทธิ์ลงแข่งในสนามประกวด

จมูก : จมูก ของไซบีเรียนฮัสกี้มีสีดำในสีเทาในสุนัขสีแทนและสีดำสีเลือดหมูในสุนัขสีทอง แดง และอาจจะมีสีเนื้อในสุนัขสีขาว ไซบีเรียนฮัสกี้บางตัวมีจมูกที่เรียกว่า “จมูกหิมะ” เป็นสภาวะที่เรียกว่าผิวด่าง(hypopigmentation)ในสัตว์และสุนัขที่มี “จมูกหิมะ” นั้นสามารถลงประกวดได้ ในสุนัขระดับประกวดไม่ค่อยจะมีจมูกทรงแหลมหรือสี่เหลี่ยมนัก

ขนาด : เพศผู้ สูง : 21 - 23.5 นิ้ว (53.5 - 60 ซ.ม.)

น้ำหนัก : 45 - 60 ปอนด์ (20.5 - 28 กิโลกรัม)

เพศเมีย สูง : 20 - 22 นิ้ว (50.5 - 56 ซ.ม.)

น้ำหนัก : 35 - 50 ปอนด์ (15.5 - 23 กิโลกรัม)

อารมณ์ : ไซบีเรียนฮัสกี้ก็เหมือนสุนัขใช้งานทั่วๆไปที่มีพลังงานสูงต้องการการออกกำลัง มาก มันควรได้รับการปฏิบัติแบบเพื่อนเดินทางและสุนัขลากเลื่อนไม่ใช่สุนัข อารักขา การรวมกันของปัจจัยนี้ส่งผลให้ไซบีเรียนฮัสกี้มีจิตประสาทที่สุภาพอ่อนโยน และซื่อสัตย์ ชาวอินูอิต(Inuit)พัฒนาสายพันธุ์นี้ขึ้นมาเพื่อใช้ลากเลื่อนหนักเป็นระยะทางไกลๆและสามารถเอาตัวรอดได้การภูมิประเทศที่หนาวเย็นแบบทรุนดรา(tundra)และช่วยในการล่าสัตว์

พฤติกรรม : พฤติกรรมของไซบีเรียนฮัสกี้ถูกมองว่าเป็นตัวแทนบรรพบุรุษของสุนัขบ้าน นั่นก็คือหมาป่า มันแสดงออกในรูปแบบพฤติกรรมของเทือกเถาเหล่ากอแบบกว้างๆ บ่อยครั้งที่ชอบหอนมากกว่าเห่า การ แสดงออกที่มากเกินไปเกิดจากการถูกขับด้วยสัญชาตญาณในการล่า บุคลิกลักษณะของสุนัขที่เกิดจากการเพาะพันธุ์บ่อยครั้งที่เห็นได้ชัดใน พฤติกรรมการละเล่นไล่จับสิ่งต่างๆในสิ่งแวดล้อมที่สุนัขแสดงออกมาคล้ายกับ สุนัขล่าเนื้อมากกว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยง มันชอบวิ่งเป็นพิเศษ น่าจะเป็นเพราะจากประวัติการเพาะพันธุ์ในอเมริกาเหนือ ในการฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่งควรใช้เวลา 15 นาที/วันดีที่สุดและทำทุกๆวัน

สุขภาพ : ไซบีเรียนฮัสกี้มีอายุเฉลี่ยราวๆ 12 -16 ปี ข้อบกพร่องในตาแต่กำเนิดที่พบจากการเพาะพันธุ์ เช่น ต้อกระจกนิ่ม,กระจกตาเจริญผิดเพี้ยน, และจอตาฝ่อรุกลามการเจริญผิดปรกติของเอวก็พบได้บ่อยเช่นกันในการเพาะเลี้ยงเหมือนกับสุนัขขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ทั่วไป ไซบีเรียนฮัสกี้ที่เป็นสุนัขลากเลื่อนอาจมีโรคอื่นๆอีกเช่น โรคกระเพาะ, หลอดลมอักเสบ(ski asthma), และแผลในกระเพาะ



อุปนิสัย

เป็นสุนัขที่มีความเฉลียวฉลาด อารมณ์ดี ตื่นตัวตลอดเวลา กระโดดโลดเต้น ขี้เล่น สนใจสิ่งแปลกใหม่ โดยถ้าเปรียบเทียบแล้ว ไซบีเรียน ฮัสกี้ ก็ไม่ต่างกับเด็กเล็กๆ ที่อยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่าง นอกจากนี้ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ยังเป็นสุนัขนักประชาสัมพันธ์ ชอบที่จะแจกมิตรไปทั่ว ดังนั้นหากมีคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน มันก็พร้อมที่จะทักทายประหนึ่งเหมือนเคยรู้จักกันมานาน ไซบีเรียน ฮัสกี้ จึงไม่เหมาะสมกับการเลี้ยงไว้เพื่อเฝ้าบ้าน แม้ว่าลักษณะภายนอกจะดูสง่างาม น่าเกรงขาม น่ากลัว แต่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นสุนัขใจดี ขี้เล่นเป็นที่สุด


สัญชาตญาณนักล่า

สัญชาตญาณจับสัตว์อื่นเป็นอาหารในสุนัขสายพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้นั้นมีมาก พวกมันมีความรวดเร็ว และฉลาดแกมโกงในเกมการล่าอย่างมาก ดังนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังสัตว์เล็กๆ ที่อยู่ในบ้านและรอบบ้าน เช่น กระรอก กระต่าย นก หนูตะเภา และน้องแมว ซึ่งอาจจะตกเป็นเหยื่อให้กับสัญชาตญาณการล่าของพวกมัน

การกระโดดโลดเต้น

ไซบีเรียน ฮัสกี้ โดยเฉพาะอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป มักจะชอบกระโดดโลดเต้น ควบวิ่ง โถมใส่ มันเป้นสุนัขที่มีพลังเหลือเฟือ ชอบเล่นแรงๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะคำนวณพลังของตัวเองไม่ถูก ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ไม่ว่าจะเป็นกับข้าวของต่างๆ ภายในบ้าน รวมถึงคนที่อยู่ในบ้านด้วย ดังนั้นหากมีเด็กเล็กๆ หรือคนแก่อยู่ภายในบ้าน ก็คงระวังเป็นอย่างยิ่ง

ความดื้อรั้น
ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขที่มีความคิดเป็นอิสระ และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง พวกมันมีความดื้อรั้นพอสมควร และมีสัญชาตญาณของการอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ทั้งยังต้องการจะประกาศตัวเองเป็นจ่าฝูง ดังนั้นหากต้องการจะฝึกสุนัขพันธุ์นี้ให้ทำตามคำสั่งแล้วละก็ จะต้องแสดงให้พวกมันรู้และยอมรับว่าเราเป็นจ่าฝูงของพวกมัน และสิ่งที่เราสั่งให้มันทำเป็นสิ่งที่พวกมันต้องทำจริงๆ

การผสมพันธุ์สุนัข ไซบีเรียน อัสกี้

การผสมพันธุ์สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ ควรทำเมื่อเพศเมียมีอายุอย่างน้อย 18 เดือน และควรผสมพันธุ์หลังจากวันที่เป็นสัตวันแรกแล้ว 9 วัน แต่อย่างไรก็ตามถ้าคุณไม่แน่ใจว่าสุนัขของคุณพร้อมที่จะผสมพันธุ์แล้วหรือไม่ ก็สามารถนำไปตรวจตามสัตวแพทย์ได้ โดยถ้าต้องการจะนำสุนัขไปผสมพันธุ์นั้น ก็ควรจะดูแลเรื่องอาหารการกินของสุนัขให้ดี ให้กินอาหารให้ครบถ้วนแต่ก็ไม่ควรให้กินมากเกินไปจนกลายเป็นโรคอ้วน ซึ่งจะทำให้การผสมพันธุ์มีความสำเร็จน้อยลง




การเลี้ยงดู ไซบีเรียน ฮัสกี้

การนำสุนัขใหม่เข้ามาในบ้านควรเป็นวันที่คุณมีเวลาว่างทั้งวัน และเป็นช่วงเวลาเช้า เพราะสุนัขจะได้มีเวลาทำความคุ้นเคยกับสถานที่และกับคุณด้วย โดยสิ่งที่คุณต้องทำเพื่อที่จะเลี้ยงและดูแลเค้าให้ดีคือ
1. การจัดหาที่หลับนอนสถานที่หลับนอนของไซบีเรียน ฮัสกี้ ควรจะกั้นคอกให้เค้าให้เป็นสัดส่วน มีขนาดใหญ่ แข็งแรง อากาศถ่ายเทสะดวก และมีมุ้งลวดเพื่อป้องกันยุง และถ้าคุณไม่คิดที่จะให้สุนัขของคุณนอนในบ้าน ก็ไม่ควรจะให้สุนัขนอนในบ้านตั้งแต่คืนแรก เพราะจะทำให้แก้ไขนิสัยได้ยาก
2. สถานที่ขับถ่ายคุณควรกำหนดบริเวณขับถ่ายของสุนัขของคุณให้เรียบร้อยตั้งแต่แรก โดยต้องฝึกการขับถ่ายให้เป็นที่ของสุนัขของคุณ (ดูได้จาก
การฝึกสุนัข) เพื่อลดภาระของคุณในการทำความสะอาด และเพื่อสุขลักษณะที่ดีของสุนัขของคุณ
3. การออกกำลังกายการออกำลังกายเป็นสิ่งที่สำคัญมากของเจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ เพื่อให้เจ้าตัวน้อยมีความสุขที่ได้อยู่กับคุณ รวมถึงเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของสุนัขเองด้วย และด้วยอุปนิสัยที่มีความกระตือรือร้น และชอบสิ่งใหม่ๆ การได้ออกไปออกำลังกายนอกบ้านจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ไซบีเรียน ฮัสกี้ มีความสุขมากๆ และนอกจากนี้การพาไปออกกำลังกายยังมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหากินยากของเจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ได้อีกทางหนึ่ง
4. การอาบน้ำการอาบน้ำเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นเลยสำหรับไซบีเรียน ฮัสกี้ หากว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สกปรก โดยหากต้องอาบน้ำ ก็ควรเลือกใช้แชมพูอาบน้ำสุนัขโดยเฉพาะ และควรเป็นแชมพูที่มีความอ่อนโยนมากๆ และสิ่งที่สำคัญที่สุดของไซบีเรียน ฮัสกี้ก็คือ เมื่อคุณอาบน้ำให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องใช้ไดร์เป่าขนให้แห้งสนิท เพราะถ้าคุณปล่อยให้เค้าตัวแห้งเอง ขนด้านในของไซบีเรียน ฮัสกี้ จะไม่แห้ง และอาจทำให้เป็นโรคผิวหนังได้
5. การตัดเล็บนี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แทบไม่จำเป็นเลยสำหรับเจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ เพราะว่ามันเป็นสุนัขที่มีความกระตือรือร้นมาก มันมักจะไม่หยุดอยู่กับที่นิ่งๆ ซึ่งทำให้เจ้าของตัดเล็บให้ัมันลำบากมาก (ผมต้องตัดให้มันตอนหลับ ไม่งั้นมันวิ่งหนีโลด) และเพราะมันชอบที่จะออกกำลังกาย ซึ่งคือการวิ่ง การกระโดด จึงทำให้เล็บของมันฝนกับพื้นและทำให้สั้นลงอยู่แล้วโดยธรรมชาติ จึงทำให้ไม่ต้องห่วงในส่วนนี้มาก แต่อย่างไรก็ตามคุณก็ควรที่จะดูในส่วนนี้ด้วยว่าเล็บของไซบีเรียน ฮัสกี้ของคุณนั้นยาวเกินไปหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการเดินของสุนัขของคุณ
6. การทำความสะอาดหูการเช็ดหูเจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้นั้น คุณควรระวังอย่างมาก เนื่องจากนิสัยของมันที่ไม่ยอมหยุดนิ่งอยู่กับที่ โดยมันอาจพยายามดิ้นหนีคุณขณะที่กำลังทำความสะอาดหูอยู่ก็ได้ และในการทำความสะอาดนั้นอาจใช้น้ำยาเช็ดหูที่มีจำหน่ายตามร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงก็ได้













































วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

หอไอเฟล


หอไอเฟล (ฝรั่งเศส: Tour Eiffel, ตูร์แอฟแฟล; อังกฤษ: Eiffel Tower) หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกด้วย หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในปี พ.ศ. 2549 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลมีความสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) (รวมเสาอากาศสูง 24 เมตร (79 ฟุต)) ซึ่งก็สูงเท่ากับตึก 81 ชั้น

เมื่อหอไอเฟลสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนที่อนุสาวรีย์วอชิงตัน และได้ครองตำแหน่งนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) ก็ได้เสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ปัจจุบันฟอไอเฟลสูงเป็นอันดับที่ 5 ในประเทศฝรั่งเศสและสูงที่สุดในกรุงปารีส ซึ่งอันดับสองคือหอมงต์ปาร์นาสส์ (Tour Montparnasse - 210 เมตร หรือ 689 ฟุต) ซึ่งในไม่ช้าจะถูกแทนที่โดยหออาอิกซ์อา (Tour AXA - 225.11 เมตร หรือ 738.36 ฟุต)